รู้จักกับธุรกิจเครือข่าย

ธุรกิจกิจเครือข่าย คืออะไร ทำไมคนจึงหลั่งไหลเข้าสู่ธุรกิจนี้อย่างมากมาย ?

ปัจจุบันมีรูปแบบวิธีการดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ว่าแต่ว่าคุณจะปฏิเสธที่จะเรียนรู้มันด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยทราบมาก่อน หรือไม่ เมื่อพูดถึงการทำการค้า หลายคนนึกถึงว่าต้องใช้เงินทุนมาก, ต้องจ้างแรงงานจำนวนมาก, ต้องผลิตสินค้า, ต้องมีโรงงาน, ต้องมีทำเลหน้าร้าน ฯลฯ จึงจะทำให้พวกเราส่วนใหญ่ ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองสักที เพราะขาดเงินทุน ขาดคนมีฝีมือที่ไว้วางใจได้ ณ.วันนี้ธุรกิจที่ทุกคนมีสิทธิ์ทำให้ฝันของตนเป็นจริงได้เกิดขึ้นแล้ว เราเรียกว่า ธุรกิจเครือข่าย

ธุรกิจเครือข่ายคืออะไร ?

ธุรกิจเครือข่าย เป็นระบบธุรกิจการตลาดรูปแบบใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถได้เป็นเจ้า ของธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมาก โดยไม่ต้องมีความเสี่ยงและไม่ต้องลงทุนเงินเป็นจำนวนมากเหมือนกับการทำ ธุรกิจทั่วๆไป เพียงเริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี และเมื่อเกิดความประทับใจในตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ก็ทำการแนะนำบอกต่อให้คนที่รู้จักได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีนั้นเหมือนกับตนเป็น การโฆษณาแบบปากต่อปาก เมื่อมีการซื้อผลิตภัณฑ์ใช้ตามคำบอกเล่าจากผู้แนะนำ ก็จะทำให้เกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการโฆษณาและพ่อค้าคนกลาง เหมือนกับการตลาดแบบเดิม ที่การเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคจะต้องผ่านระบบพ่อค้าคนกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับกำไรถึง 60% จากการจัดส่งสินค้ามาสู่ผู้บริโภค
เมื่อเกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ ผู้บริโภคโดยตรง ทำให้บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์สามารถประหยัดงบประมาณที่เป็นค่าโฆษณาได้มาก ซึ่งบริษัทจะนำงบค่าโฆษณาที่ประหยัดได้ไปใช้ทำการวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ดีขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นอีก ส่วนผลกำไร 60% ของพ่อค้าคนกลางที่ถูกตัดออกมานั้น บริษัทจะนำเงินส่วนนี้มาจัดสรรให้กับผู้บริโภคที่ใช้ดีแล้วทำการบอกต่อกับ ผู้อื่นเป็นลำดับชั้นตามส่วนที่บริษัทกำหนดไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในระบบการตลาดแบบเครือข่ายนี้ จะทำให้ผู้บริโภคสามารถมีส่วนแบ่งของรายได้มากถึง 60% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์ จากระบบการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคแบบใหม่ นอกเหนือจากการที่จะต้องเป็นผู้จ่ายเงินซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียวในระบบ ธุรกิจแบบเดิม
โดยการตลาดแบบเครือข่ายผู้บริโภค ที่ใช้วิธีการแนะนำบอกต่อนี้จะมีลักษณะที่พิเศษกว่าการตลาดแบบทั่วๆไป คือ ความสามารถในการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภคที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นได้แบบไม่จำกัด จำนวน โดยอาศัยเพียงการแนะนำผลิตภัณฑ์จากคน 1 คนแนะนำให้กับคน 2 – 3 คนและแต่ละคนของ 2 – 3 คนบอกต่อกับคน 2 – 3 คนต่อๆไป ก็จะเกิดการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภค ในลักษณะพหุคูณเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด

โอกาสการเปลี่ยนแปลงชีวิตสู่การมีอิสรภาพทางการเงินและเวลา

หนังสือชุดพ่อรวยสอนลูก เล่มที่ 2 “Cashflow Quadrant” หรือ “เงินสี่ด้าน” ของ Robert T. Kiyosaki ได้กล่าวไว้ว่า คนในโลกแบ่งตามที่มาของรายได้ที่เขาได้รับออกเป็น 4 ด้านคือ
ESBI
ด้านที่ 1 ) ลูกจ้าง ( Employee ) คือผู้ที่มีรายได้จากค่าจ้าง, เงินเดือน
ด้านที่ 2 ) ธุรกิจส่วนตัว ( Self – employed ), เจ้าของกิจการขนาดเล็ก ( Small Business owner )
คือผู้ที่มีรายได้จากการทำงานของตนเองหรือกิจการของตนเองโดยเจ้าของกิจการจะต้องเป็นผู้ลงมือทำหรือดูแลด้วยตนเอง
ด้านที่ 3 ) เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ ( Business owner ) คือผู้ที่มีรายได้จากทรัพย์สินของตน, โดยใช้เวลาและแรงงานของผู้อื่นสร้างรายได้ให้กับตน
ด้านที่ 4 ) นักลงทุน ( Investor ) คือผู้ที่ใช้เงินทำงานแทนตนเอง เพื่อสร้างผลตอบแทนหรือรายได้ให้กับตนโดยไม่ต้องทำเอง

โอกาสที่ดีที่สุดอยู่ที่การตัดสินใจเลือกทางเดินของคุณ

ในทุก ๆ เช้าของวันใหม่ที่เราตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเรายังต้องดำเนินชีวิตในรูปแบบที่ เหมือนๆกับทุกๆวันที่ผ่านมา คือต้องตื่นแต่เช้า ออกจากบ้าน ผจญกับปัญหาจราจร เพื่อไปให้ทันเข้างาน ตอกบัตรเข้าทำงาน แล้วก็ทำงานตามภาระรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย พบเจอกับความเครียดต่างๆในการทำงาน ตอนเย็นเลิกงาน ตอกบัตรออก ผจญกับปัญหาจราจรอีกครั้ง กลับถึงบ้าน แล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย และเตรียมพบกับวันใหม่ที่ดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิมๆ เป็นวงจรซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน เราเคยสังเกตบ้างหรือไม่เราทำสิ่งเหล่านี้เพื่ออะไร? เพื่อที่จะให้สามารถดำรงชีวิตผ่านไปได้วันๆหนึ่งเท่านั้นเองหรือ ? เราต้องการชีวิตที่เป็นแบบนี้จริงๆหรือ ? ผมเชื่อมั่นว่าคนเราทุกคนมีความฝัน อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่าที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้อย่างแน่นอน แล้วทำไมไม่ลองหาทางที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณไปสู่รูปแบบของการใช้ชีวิตแบบ ใหม่ในแบบที่คุณอยากเป็น

มีสุภาษิตจีนบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า “เดินทางร้อยลี้ต้องมีก้าวแรก” หากคุณต้องการเริ่มต้นสร้างความสำเร็จให้กับชีวิต ด้วยเส้นทางที่สามารถสร้างความฝันของคุณให้เป็นจริงได้ ภายในระยะเวลาที่ไม่ยาวนานเกินไป ธุรกิจเครือข่ายจะเป็นเส้นทางที่ดี ที่สุดเส้นทางหนึ่ง ที่พร้อมจะเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงเสมอ หลังจากนี้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณ เมื่อคุณได้มีโอกาสอ่านเอกสารฉบับนี้แล้ว และต้องการจะใช้โอกาสที่ดีนี้เพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงินและเวลาให้กับตัว คุณเองและคนที่คุณรัก ผู้ที่แนะนำคุณให้อ่านเอกสารฉบับนี้พร้อมเสมอที่จะช่วยคุณสร้างความฝันให้ เป็นจริง เพียงคุณมีความเชื่อมั่นและเดินตามความเชื่อในหัวใจของคุณ ทุกสิ่งที่คุณปารถนาย่อมเป็นไปได้อย่างแน่นอน

จุดเด่นของธุรกิจเครือข่าย (Networking System)

1. คือ Win - Win Business (ธุรกิจที่ชนะชนะ ) เมื่อคนที่ท่านแนะนำธุรกิจ (ลูกทีมของท่าน) สำเร็จ ท่านในฐานะผู้แนะนำ.... จึงจะ.... สำเร็จด้วย

2. คือ No - Risk Business (ธุรกิจที่ไม่มีความเสี่ยง) ด้วยขนาดเงินลงทุนต่ำ แต่ใช้สัมพันธภาพสูง ใช้เวลาพอควร ท่านไม่ต้องลงทุนสร้างทรัพย์สิน อาคาร, อุปกรณ์, ที่ดิน (บนกองหนี้สิน)
แต่ท่าน.... กำลัง....สร้าง ทรัพย์สินคือ เครือข่ายประชากร (People Assets) ที่.... ผูกโยง กันด้วยสัมพันธภาพ
และ.... ได้ผลตอบแทนจากทรัพย์สินบนบันทึกข้อตกลง ผลประโยชน์ร่วมกัน!
และ.... ผลตอบแทนนี้ได้มาจาก ผลรวมของทั้งเครือข่าย
บางคน.... เรียกผลตอบแทนนี้ว่า Passive Income
(รายได้ที่ไม่ต้องลงแรงด้วยตนเอง แม้ว่าคุณจะหยุดทำงาน แต่รายได้ ของคุณยัง เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดเวลา)

3. เป็นธุรกิจที่ท่านสามารถเลือกเวลาทำงานตามใจปรารถนา ไม่ต้องตอกบัตรเข้างาน 8.00 น. ไม่ต้องตอกบัตรออกงาน 17.00 น. ไม่ต้องยื่นใบลากิจ, ลาพักร้อนกับใคร นอกจากขออนุญาติตัวเอง! เป็นเจ้านายงานในเวลาของตนเอง (Time Freedom) นั่นคือ... มีอิสระภาพทางเวลา!

4. เป็นธุรกิจที่กำลังอยู่ในทิศทางใหม่ของโลก เพื่อให้ท่านได้มีเวลา อยู่กับครอบครัวให้มากขึ้น (Home Based Business) เพราะ ธุรกิจนี้ทำบนโต๊ะอาหารภายในบ้านของท่าน และบ้านของคนใน เครือข่ายได้

5. เป็นระบบที่เสริมสร้างโอกาสให้ ได้ร่วมทำงานกับ คนหลากหลาย อาชีพ, หลากหลายประสบการณ์, หลากหลายวัฒนธรรม (Multi Experience - Multi Profession - Multi culture) บนความเท่าเทียมกัน ไม่มีใครเป็นเจ้านาย-ลูกน้อง
ทุกคน คือ สมาชิกอิสระ (Distributor) ภายในระบบธุรกิจมีการ.... ถ่ายทอด.... องค์ความรู้ในวิชาชีพ
องค์ความรู้ในผลิตภัณฑ์.... จิตวิญญาณที่ปลุกพลังแห่งความสำเร็จ ลงไปเป็นชั้น ๆ ต่อ ๆ กัน ไม่รู้จบ

6. เป็นธุรกิจที่ต่อเชื่อมท่านเข้ากับธุรกิจ ข้ามชาติระดับโลกท่านไม่ต้องสร้างระบบใหม่ ด้วยตนเอง แต่ดำเนินตาม, ปฏิบัติตามแบบแผน ธุรกิจ (Business - format) ที่วางไว้อย่างดีเป็นแบบเดียวกันทั่วโลก (บางคนเรียกว่าเครือข่ายของ แฟรนไชส์ ระดับเล็กๆ หรือระดับบุคคล มาผูกโยงเชื่อมกัน (Network of Micro or Personal Franchisee) แต่ไม่ต้องจ่ายค่ารอยัลตี้ (Royalty fee) ใดๆ เลย

7. เป็นระบบธุรกิจเดียวที่มีผลกำไรงอกเงย ขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง/วัน ตลอด 365 วัน/ปี แม้ท่านเองจะหยุดพักผ่อน, หยุดพักร้อน เพราะเวลาทำงานภายในเครือข่ายของท่าน อาจอยู่อีกซีกโลกหนึ่ง ซึ่งกำลังทำงานอยู่ในขณะที่ท่านนอนหลับ หรือกำลังทำงานอยู่ในขณะที่ท่านหยุดพักร้อน

8. เป็นระบบธุรกิจเดียวที่ผลงานแห่ง ความพากเพียร ของท่าน วันละ 2 ชั่วโมง สามารถทวีคูณไปเป็น วันละ 2,000 ชั่วโมง, 20,000 ชั่วโมง.... แปรผัน.... ตามความใหญ่โตของ เครือข่ายของท่าน และ.... เมื่อท่านสามารถสร้างสินทรัพย์ (People Assets) เครือข่ายอย่างมีคุณภาพ ท่านก็สามารถทำงาน เต็มที่เพียง 3 - 5 ปี เพื่อรับบำนาญติดต่อกันไปตลอดชีวิต

หากท่านเป็นลูกจ้าง (Employee) มีรายได้จาก เงินเดือนเป็นหลัก ท่านอาจต้องทำงาน 35 ปี (60-25) เพื่อรอกินบำนาญเพียงเล็กน้อยต่อไป 5-15 ปี (หลังอายุ 60ปี)
หากท่านเริ่มงานด้วยเงินเดือนเริ่มต้น เดือนละ 7,000 บาท และโชคดีเงินเดือนของท่าน
ได้รับการปรับเพิ่มทุกๆ ปีๆ ละ 5-10%
เมื่อทำงานติดต่อกันถึง 35 ปี.... ท่านจะได้รับเงินจากผลงานทั้งชีวิต (420 เดือน)
รวมประมาณ 7 ล้านบาท
แต่ท่านทราบไหม? ว่า เงิน 7 ล้านบาทนี้ ท่านอาจสร้างขึ้นได้จากธุรกิจระบบเครือข่าย
(หากครบองค์ 5 : บริษัทมั่นคง, ผลิตภัณฑ์คุณภาพดี แผนธุรกิจดี, แนวโน้มเศรษฐกิจเอื้ออำนวย, อยู่ในเวลาและโอกาสอันเหมาะสม)
ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี หรือไม่ถึง 5 ปี

  เมื่อพูดถึงเครือข่ายผมก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงแชร์ลูกโซ่นะครับ ซึ่งทั้่งสองอย่างนี้มีความเหมือนที่ต่างกันอยู่นะครับ เอาเป็นว่าลองอ่านบทความนี้ดูละกันนะครับ...
ธุรกิจเครือข่าย MLM ย่อมาจากคำว่า Muti-level Marketing ซึ่งอาจใช้
เรียกเป็นภาษาไทยว่า ธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้น หรือธุรกิจเครือข่าย

(ขายตรง ทุกท่านน่าจะพอเข้าใจกันนะครับ ดังนั้นผมจะไม่ขอพูดถึง )

ธุรกิจเครือข่ายเป็นการทำการตลาดอีกระบบหนึ่ง ในการกระจายสินค้า
และบริการ จากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยที่ไม่ต้องผ่าน ผู้ค้าส่งและค้าปลีก
แต่จะกระจายสินค้าผ่านนักธุรกิจอิสระของบริษัทนั้น ๆ ด้วยวิธีการ ใช้ดีแล้วบอกต่อหรือจะเรียกว่าสร้างเครือข่ายผู้บริโภคก็ได้

จากรูปตัวอย่างด้านบน จะเห็นว่า เมื่อการตลาดแบบเครือข่าย ตัดผู้ค้าส่ง
และค้าปลีกออกไป จะเหลือค่าการตลาดที่ไม่ต้องเสียไปคือ 60 %
ในส่วนนี้ละครับ ที่บริษัทเครือข่ายนำมาจ่ายเป็นรายได้ให้แก่สมาชิก


รายได้จะเกิดจากการที่สมาชิกขายสินค้าหรือสร้างเครือข่ายของผู้บริโภค เมื่อเครือข่ายที่เราสร้างเปลี่ยนที่ซื้อสินค้า มาชื้อกับบริษัทที่ตนเองเป็นหุ้นส่วน บริษัทก็จะจ่ายผลตอบแทนในรูปแบบของโบนัสให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของเครือข่าย หรือผู้สร้างเครือข่าย

เรียกได้ว่า เปลี่ยนจากรายจ่ายให้เป็นรายรับ ก็ว่าได้ครับ





ส่วน แชร์ลูกโซ่
แชร์ลูกโซ่ หมายถึง รูปแบบการดำเนินธุุุุุุุุุรกรรมที่มุ่งประสงค์เพื่อ
หารายได้จากการระดมทุุูููนเป็นหลัก สามารถเรียกว่า เครือข่ายได้ 
แต่ไม่สามารถใช้คำว่าการตลาดแบบเครือข่าย เพราะ ไม่มีสินค้า 

ดังนั้น แชร์ลูกโซ่ จึงมีรูปแบบการจ่ายผลตอบแทนในลักษณะที่ว่า
เป็นการเอาเงินคนใหม่มาจ่ายให้กับคนเก่า ซึ่งแบบนี้ก็ไม่สามารถ
ที่จะหยุดได้ จึงต้องหาสมาชิกมาลงทุนอยู่ตลอด

ในประเทศไทย ถือว่า แชร์ลูกโซ่ "ผิดกฎหมาย" จึงมีการแอบแฝง 
เอาสินค้าและบริการเข้ามาบวกกับแผนการจ่ายผลตอบแทน เพื่อทำให้
ดูถูกกฎหมายมากขึ้น 

แต่ถึงแม้จะมีสินค้าและบริการนั้น ๆ แล้ว เนื้อแท้บริษัทเหล่านี้ก็ยัง
หนีไม่พ้นรูปแบบเดิม ๆ คือ การเอาเงินคนใหม่มาจ่ายให้กับคนเก่า อยู่ดี


เห็นแล้วใช่ไหมครับว่า มันมีความเหมือน ที่แตกต่างจริง ๆ 


โดยจุดที่เหมือนก็คือการสร้างเครือข่าย แต่มีจุดประสงค์ที่ต่างกัน
ธุรกิจเครือข่ายจะสร้างเครือข่ายของผู้บริโภคเพื่อสร้างรายได้จากการซื้อกินซื้อใช้ของเครือข่าย โดยมีสินค้าที่มีคุณภาพราคาสมเหตุสมผลแชร์ลูกโซ่จะสร้างเครือข่ายเพื่อระดมทุน แล้วเอามาแบ่งจ่ายให้คนเก่า ๆ 

ซึ่งในลักษณะนี้ ยังสามารถแสดงให้เห็นถึงรายได้ของบริษัทและสมาชิก โดย
ธุรกิจเครือข่าย จะมีรายได้หลักจากการขายสินค้า จากการสร้างเครือข่ายผู้บริโภค
แชร์ลูกโซ่ จะมีรายได้หลักจากค่าสมัครของสมาชิกใหม่ ๆ 

มาถึงจุดนี้หลายท่านอาจเข้าใจ และ อาจจะมีบางท่านที่ยังไม่เข้าใจ
เอาเป็นว่า ผมให้วิธีสังเกตแบบง่ายไปเลยก็แล้วกันครับ

1 แชร์ลูกโซ่มีรายได้หลักจากค่าสมัครของสมาชิกใหม่
2 แชร์ลูกโซ่ จะไม่มีหรือมีสินค้าแต่ไม่ค่อยมีคุณภาพและราคาสูง
3 แชร์ลูกโซ่ ไม่มีที่อยู่ที่ชัดเจน ส่วนใหญ่เช่าตึกเพื่อทำเป็นสำนักงาน
4 แชร์ลูกโซ่ จะมีระยะเวลาในตัว เมื่อไม่มีสมาชิกใหม่หรือมีสมาชิกมาก
จนไม่สามารถจ่ายเงินได้ ก็จะทำการปิดบริษัทหนีไป โดยปกติแล้วบริษัทพวกนี้
จะมีอายุประมาณ 5 ปี

4 ข้อนี้คือวิธีสังเกต บางบริษัทที่มีสินค้าน้อยอาจไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ก็มี ดังนั้น
การที่เราจะเลือกธุรกิจอะไรซักตัว ต้องพิจารณาให้ดีครับ

และหวังว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับหลาย ๆ ท่านนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น